หลังสหรัฐเตรียมประกาศยกเลิกคำสั่งผ่อนผันนำเข้าน้ำมันอิหร่าน นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียได้จับตาตลาดน้ำมันอย่างใกล้ชิด หลังจากที่สหรัฐประกาศยกเลิกคำสั่งผ่อนผันแก่ประเทศที่นำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน

“ซาอุดีอาระเบียจะร่วมมือกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นในการรับประกันว่าปริมาณน้ำมันจะมีอยู่อย่างเพียงพอสำหรับผู้บริโภค และสร้างความมั่นใจว่าตลาดน้ำมันโลกจะไม่เสียสมดุล” นายอัล-ฟาลีห์กล่าว

นายอัล-ฟาลีห์ยังกล่าวเสริมว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซาอุดีอาระเบียจะปรึกษาอย่างใกล้ชิดกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่น และประเทศผู้บริโภคน้ำมันเพื่อรับประกันว่าตลาดน้ำมันจะมีสมดุล และมีเสถียรภาพสำหรับประโยชน์ของผู้ผลิต และผู้บริโภค รวมทั้งเสถียรภาพต่อเศรษฐกิจโลก

ด้านนายเมฟลุต คาวูโซกลู รมว.ต่างประเทศตุรกี ระบุว่า ตุรกีคัดค้านการตัดสินใจของสหรัฐในการยกเลิกคำสั่งผ่อนผันแก่ประเทศที่นำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน เนื่องจากสิ่งนี้จะไม่ช่วยสนับสนุนสันติภาพ และเสถียรภาพในภูมิภาค

ขณะที่นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวชื่นชมการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการยกเลิกคำสั่งผ่อนผันให้ 8 ประเทศนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน โดยระบุว่า

การดำเนินการดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเพิ่มแรงกดดันต่อระบอบการปกครองของอิหร่าน

ส่วนนายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า รัฐบาลจีนคัดค้านการที่สหรัฐเตรียมประกาศยกเลิกคำสั่งผ่อนผันให้ 8 ประเทศนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านและคัดค้านการประกาศคว่ำบาตรแต่เพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐ รวมทั้งการที่สหรัฐใช้อำนาจนอกเหนือขอบเขตทางกฎหมายของตน ที่ผ่านมา การดำเนินการระหว่างจีนและอิหร่านเป็นไปอย่างมีเหตุผล ถูกต้องตามกฎหมาย และจีนจะปกป้องสิทธิทางกฎหมายของบริษัทจีน

source: bangkokbiznews